🔹 1. Gemini Diffusion คืออะไร?
ในงาน Google I/O 2025 นอกจาก Gemini 2.5 และ Veo 3 ที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก Google ยังแอบเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Gemini Diffusion ซึ่งเป็นโมเดลภาษารูปแบบ “Diffusion Model” (โมเดลการแพร่กระจาย) ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างข้อความอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง โดยใช้โครงสร้างแบบ non-autoregressive ที่ไม่ต้องสร้างทีละคำเหมือน GPT แต่สามารถสร้างข้อความทั้งประโยคหรือย่อหน้าในคราวเดียวกัน
🔹 2. จุดเด่นของ Gemini Diffusion: ความเร็วเหนือจินตนาการ
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดคือ ความเร็ว:
- สร้างได้ 1,479 โทเคน/วินาที
- มีเวลาเริ่มต้นที่ 0.84 วินาที เท่านั้น
- เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันเรียลไทม์ เช่น แชตบอท, ผู้ช่วย AI, ระบบบริการลูกค้าอัตโนมัติ
Simon Willison ผู้ร่วมก่อตั้ง Django framework ได้ทดสอบโดยให้ Gemini Diffusion สร้างโค้ด HTML และ JavaScript สำหรับหน้าเว็บแชตแบบโต้ตอบในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
🔹 3. ความแม่นยำด้านการเขียนโปรแกรมและตรรกะ
ข้อมูลจาก Google DeepMind แสดงให้เห็นว่า Gemini Diffusion ทำงานได้ดีในหลายการทดสอบ:
- HumanEval (การเขียนโปรแกรม): 89.6%
- AIME 2025 (ตรรกะคณิตศาสตร์): 23.3%
- LiveCodeBench (การเขียนโค้ดแบบสด): 30.9%
แม้ยังมีจุดอ่อนในด้านการเข้าใจบริบททั่วไปหรือคำถามหลายมิติ (MMLU ได้เพียง 69.1%) แต่ Gemini Diffusion ก็แสดงศักยภาพที่สามารถต่อยอดเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI ยุคใหม่
🔹 4. จุดเปลี่ยนแห่งวงการ: Google เป็นรายแรกในบิ๊ก 4 AI ที่เปิดตัว diffusion LLM
Gemini Diffusion ทำให้ Google กลายเป็นบริษัทรายแรกในกลุ่ม Big Four AI (Microsoft, Google, Meta, Amazon) ที่เปิดตัวโมเดลภาษาระดับ Diffusion อย่างเป็นทางการ
ผู้บริหารของ DeepMind กล่าวว่า นี่เป็น “หมุดหมายใหม่ของวงการ AI อย่างแท้จริง”
🔹 5. การใช้งานที่หลากหลายของ Gemini Diffusion
- AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ: วางแผนงานหลายขั้นตอนได้แบบเร็วและแม่นยำ
- ตรรกะขั้นสูง: ระบบสามารถตรวจจับและแก้ไขข้อมูลผิดพลาดได้
- ควบคุมเนื้อหาง่าย: แก้ไขคำหรือลำดับคำได้แม่น
- ใช้งานในอุปกรณ์ IoT: ประมวลผลเร็ว ใช้พลังงานต่ำ
🔹 6. ผสมผสานโมเดล: อนาคตของ AI ที่ใช้ทั้ง Diffusion + Autoregressive
นักวิจัยคาดว่า โมเดลในอนาคตจะใช้เทคนิคแบบ ไฮบริด เช่น ใช้ Diffusion สร้างข้อความต้นแบบ แล้วใช้ GPT-4 ปรับแต่งให้แม่นยำขึ้น หรือกลับกัน
นี่อาจเป็นทิศทางใหม่ที่ทำให้ AI สร้างข้อความได้เร็ว แต่อ่านแล้วเข้าใจลึก
🔹 7. ฟีเจอร์ AI อื่น ๆ ที่ Google เปิดตัวใน I/O 2025
• Stitch: เครื่องมือสร้าง UI ด้วยข้อความ
พิมพ์คำเดียว Google ก็สร้าง UI ทั้งหน้าพร้อมโค้ด HTML/CSS ให้พร้อมส่งเข้า Figma ได้เลย
• Google Meet: แปลภาษาแบบ Real-time
พูดอังกฤษ แต่ผู้ร่วมประชุมฟังเป็นสเปน! แปลแบบเข้าใจบริบท น้ำเสียง และอารมณ์
• AI Overviews: ระบบค้นหาแบบใหม่
ถามแบบซับซ้อน ระบบก็เข้าใจและจัดคำตอบแบบเรียงลำดับ พร้อมลิงก์และรูป
• AI ลองเสื้อผ้า “Try It On”
แค่อัปโหลดรูป ระบบจะจำลองให้คุณดูว่าชุดนั้นใส่แล้วเป็นยังไง (เฉพาะในสหรัฐฯ)
• AI ตัวแทน (Project Mariner)
ค้นหาราคาตั๋วหรือจองร้านอาหารข้ามเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ
🤑 อยากใช้ AI ทำเงิน? เริ่มต้นที่ Dafabet CASINO!
ในยุค AI นี้ ความเร็วและข้อมูลคือพลัง! หากคุณอยากเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ลองใช้โอกาสนี้เข้าสู่โลกของเกมออนไลน์และกีฬาเสมือนจริงกับ Dafabet CASINO
✅ ระบบปลอดภัย
✅ ฝาก-ถอนออโต้
✅ โปรโมชั่นโบนัส AI-Power รายวัน
เปลี่ยนไอเดียของคุณให้กลายเป็นเงินได้ง่าย ๆ
Q&A
A: เพราะระบบ AI ของ Dafabet วิเคราะห์รูปแบบเกมและให้คุณได้เปรียบในการตัดสินใจมากขึ้น พร้อมระบบโบนัสที่ใช้ machine learning เพิ่มโอกาสให้คุณชนะ
A: Dafabet มีระบบทดลองเล่น, บทความแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ, และ AI Chat Support ที่ให้คำปรึกษาแบบเรียลไทม์ มือใหม่ก็เริ่มได้ใน 5 นาที!
A: แน่นอน! ลูกค้าใหม่สามารถรับโบนัสต้อนรับสูงสุด 150% เมื่อฝากครั้งแรกในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษแจกของรางวัล AI Gadgets